รายละเอียด |
: |
ขุนแผนสะพายดาบเนื้อดินผสมผงและสีผึ้งเขียวพิมพ์หน้าแก่ หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสกสร้างและปลุกเสกโดย หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระพุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม\nคงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย\nมวลสารส่วนผสม\n1.ผงวิเศษเก่าของหลวงปู่ทาบ\n2.สีผึ้งเขียวของหลวงปู่ทาบ\n3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร\n4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงปู่ทาบ\n5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี\n6.ผงดินมงคลของหลวงปู่ทาบ\n7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง\nพิธีปลุกเสก\nครั้งที่ 1 หลวงปู่ทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม\nครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง\n- หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี\n- หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก\n- หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง\n- หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก\n\nพระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิม อิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ หลวงปู่ทาบเป็นสหธรรมิกและศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ทิม ท่านได้สร้างพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ และจะนิมนต์หลวงปู่ทิมมาปลุกเสกทุกครั้ง พุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สหธรรมมิก ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านคือ ๑ ในพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังของเมืองระยองในอดีต ท่านโด่งดังมากๆ ในเรื่อง สีผึ้งเขียว สุดยอดเสน่ห์ เมตตามหานิยม ของท่าน ผู้ใดมีครอบครองต่างหวงแหนสุดๆ วัตถุมงคลของท่าน ที่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง และ ปลุกเสก นั้นมีมากมาย หลายสิบพิมพ์ แต่ คนทั่วไปจะรู้จักกันเพียงไม่กี่พิมพ์ โดยเฉพาะ พิมพ์พระปิดตา, พระพิมพ์นางกวัก, พระพิมพ์สมเด็จ แขนกางนักเลงโต และ พระพิมพ์นางพญา ที่ หลวงปู่ทิม ร่วมปลุกเสก ”เมื่อครั้งที่หลวงพ่อทาบจะสร้างพระผงทิ้งไว้เป็นสมบัติโลก ก็มาหารือกับหลวงพ่อทิม ถึงการสร้างผงให้ถูกต้องตามตำรา โดยหลวงพ่อทาบไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งจารผงและลบผงเอง หลวงพ่อทิมจึงแนะนำว่า”โยมปถมนั่นแหละทำผงเก่ง และทำได้ชะงัดนัก ยังเคยทำมาให้นี่เสกเลย” จึงให้คนไปเชิญอาจารย์ประถมมาที่วัดกระบกขึ้นผึ้ง และเอ่ยปากว่าจ้างให้ช่วยเป็นผู้อำนวยการสร้างพระผงให้ท่าน.อาจารย์ปถมเล่าว่า ท่านก็รับปากด้วยความยินดี โดยจะขอสร้างเป็นพุทธบูชา ไม่ขอรับค่าจ้างแต่อย่างใด แต่มีข้อแม้ว่าการปลุกเสก ต้องนิมนต์หลวงพ่อทิมมาร่วมด้วย หลวงพ่อทาบไม่ขัดข้อง หลังจากนั้นไม่นานหลวงพ่อทาบก็อุตสาห์ซ้อนรถเครื่องไปหาหลวงพ่อทิม เพื่อปรึกษาหารือในการสร้างพระในครั้งนี้ และนิมนต์มาปลุกเสก.เมื่อรับปากหลวงพ่อทาบแล้วก็จัดเตรียมวัสดุมงคลตามตำราที่เคยแสวงหาไว้ตั้งแต่ครั้งวนเวียนรับราชการอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ได้นำมาปั้นเป็นชอล์กแท่งแบบดินสดเขียนกระดานเสร็จแล้วลบผงปถมัง และผงอิทธิเจตามตำราที่ร่ำเรียนมา ท่านรู้ตัวดีว่าเป็นเพียงฆราวาสที่ยังข้องแวะในโลกีย์แม้ทำผงเกิดความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ผู้คนทั่วไปคงจะเชื่อถือยาก จึงไปขอผงวิเศษจากวัดโพธิสัมพันธ์ซึ่งหลวงพ่อบุญมีเป็นผู้ทำขึ้น และยังได้นำผงซึ่งโยคีฮาเล็บสร้างให้วัดสารนาถ มาร่วมด้วย ผงวิเศษนี้สร้างโดยศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ประกอบพิธีขึ้นที่วัดสัมพันธวงศ์ กทม.เป็นผงซึ่งหลวงพ่อลี วัดอโศการามนำไปสร้างพระผงของท่าน.โดยรวบรวมผงได้ประมาณ ๑ บาตรเต็มๆ หลวงพ่อทาบเห็นผงแล้ว หัวเราะชอบใจและบอกว่า”ผงนี้เฮี้ยวจริงๆ มีทั้งนุ่มลึกและเข้มแข็ง”จึงได้นำผงนี้ไปรวมกับผงเก่าๆของท่านซึ่งมีคัมภีร์โบราณ ดินมงคลต่างๆ ตามที่ท่านได้เสาะแสวงหาไว้ เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว หลวงพ่อทาบจึงได้กดพิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นท่านได้ร้องขอให้ชาวบ้านนุ่งขาวห่มขาวอาราธนาศีลทุกคนช่วยกันกดพิมพ์พระ โดยอาจารย์ปถมเป็นผู้อำนวยการสร้าง คือ แนะนำการตำผง คลุกเคล้าผงและกดพิมพ์……………….\n..สำหรับพระชุดนี้เป็นพระผงดำทั้งหมด มีพิมพ์สมเด็จ เป็นพิมพ์พระเก่าที่ได้มาจากวัดเนิน จังหวัดระยอง เข้าใจว่าเป็นพิมพ์พระสมัยหลวงปู่สังข์เฒ่า ทำด้วยหินมีดโกน อีกพิมพ์เป็นพิมพ์แม่นางกวัก สำหรับพิมพ์พระปิดตามี ๕ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่พิเศษ,พิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลาง,พิมพ์เล็ก และพิมพ์จิ๋ว นอกจากนี้ยังมีพิมพ์กลีบบัว ได้พระประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์เท่าพระธรรมขันธ์.หลวงพ่อทาบได้นำสีผึ้งเขียวผสมลงไปด้วย ดังนั้นพระทุกองค์จึงมีส่วนผสมของสีผึ้งสีเขียว\nเมื่อพิมพ์พระเสร็จแล้ว หลวงพ่อทาบได้ปลุกเสกพระเพียงองค์เดียวนานหนึ่งพรรษาเต็มๆ เมื่อใกล้จะถึงงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ หลวงพ่อทาบจึงทำพิธีปลุกเสกเสริมข้อบกพร่องอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าทำเพิ่มเสริม หรืออุดช่องโหว่.ในงานปลุกเสกครั้งนี้เป็นงานครั้งแรกของหลวงพ่อทิมที่ท่านได้ออกจาก วัดละหารไร่ มาร่วมพิธีปลุกเสก พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงพ่อทิมมีอายุ ๘๓ ปีพอดี.นอกจากหลวงพ่อทาบ ยังมีหลวงพ่อหอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง,หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ส่วนหลวงพ่อพระครูวรพตปัญญาจารไม่ได้มาปลุกเสก.ส่วนหลวงพ่อทาบ ไม่ได้มานั่งปลุกเสก ได้แต่นั่งรับแขก เพราะท่านท้องเสีย….ในงานปลุกเสกนั้น เริ่มตั้งแต่ ๑๙.๐๐ น.ถึง ตี ๒เศษ โดยทางเจ้าพิธีการแบ่งการปลุกเสกไว้ถึง ๔ ช่วงโดยปลุกเสกไปเกือบสองชั่วโมงก็ตีฆ้องครั้งหนึ่งเพื่อบอกกล่าวให้หลวงพ่อที่ปรกออกจากเข้าสมาธิ พักผ่อนดื่มน้ำชา กาแฟประมาณครึ่งชั่วโมง.แต่หลวงปู่ทิมนั่งปรกรวดเดียว ๘ ชม.โดยไม่ขยับเขยื้อนเลย ท่านนั่งนิ่งสงบยกมือพนมอยู่ในท่าเดียวตลอด…หลวงพ่อทิมได้พูดเล่นกับอาจารย์ปถมว่า”ให้เสกแบบนี้เมื่อยตาย” จากนั้นก็กลับวัดเลย โดยไม่ยอมรับปัจจัยที่ทางวัดนำมาถวาย และท่านก็ไม่ยอมดื่มน้ำชาที่ทางเจ้าพิธีนำมาถวาย.ศิษย์ถามท่านว่า”ทำไมหลวงพ่อไม่ฉันน้ำที่เขาถวาย และไม่รอรับปัจจัยที่เขาถวาย” หลวงพ่อทิมตอบว่า”ถ้าฉันน้ำของเขา และรับปัจจัยที่เขาถวายก็จะไม่ได้บุญเพราะเท่ากับรับจ้างเขามาเสกพระ”ศิษย์ถามต่อไปอีกว่า”ทำไมต้องนั่งพนมมือเสก องค์อื่นๆเขานั่งสมาธิ มือขวาทับมือซ้ายกันทั้งนั้น” ท่านตอบว่า”พนมมือเสกพระดีกว่านั่งสมาธิ เพราะถ้า.เกิดนั่งหลับ เมื่อนั้นคนเขาจะได้รู้ เพราะมือที่พนมนั้นมันจะตก\nพุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง\n |