รหัส |
: |
64870 |
ชื่อพระ |
: |
เหรียญสรรพสิทธิโชค หลวงปู่ทองบัว ตนฺติกโร วัดโรงธรรมสามัคคี เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ปี 2517 |
สถาณะ |
: |
|
ราคา |
: |
โชว์พระ |
รายละเอียด |
: |
ประวัติพระอาจารย์ทองบัว ตันติกโร(พระราชพุทธิมงคล) พระอาจารย์ทองบัว เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 แรม 15 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา (ตรงกับวันมาฆบูชา) เวลา 6.00 น. ที่บ้านหนองผักแว่น ตำบลห้วยโปร่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัด ลพบุรี ในสกุล “บุตรศรี” แต่ครั้งเมื่อไปแจ้งที่อำเภอทางอำเภอเขียนผิดเป็น “พุทธศรี” ซึ่งมีความหมายว่า เป็นศรีหรือมิ่งขวัญแก่บวรพุทธศาสนา ตั้งแต่บัดนั้นมา\\\\\\\\\\\\\\\\nโยมบิดาชื่อนาย โมทย์ โยมมารดาชื่อ นางสีดา มีพี่น้องร่วมท้องกัน 12 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 6 คน ส่วนท่านเป็นบุตรคนที่ 9 เมื่ออายุได้ 6-7 ขวบ โยมมารดาถึงแก่กรรม จึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ยังจังหวัด ขอนแก่น และเมื่ออายุได้ 9 ขวบ จึงได้ไปเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนบ้านยางคำวิทยาทาน วัดสวรรค์คงคา บ้านยางคำ จนจบชั้นประถม เมื่อจบเรียนแล้ว ได้บวชเป็นผ้าขาวรักษาศีลอุโบสถ บริโภคอาหารวันละมื้อเดียว นุ่งขาวห่มขาว และบำเพ็ญสมาธิ ติดตามกับพระภิกษุพี่ชายจนออกพรรษา เมื่อปี 2482 เมื่ออายุของท่านได้ 18 ได้บวชเป็นสามเณร โดยมีท่านเจ้าคุณพระพิศาลคณานุกิจ ศิษย์พระอาจารย์มั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วได้บำเพ็ญสมณธรรมกัมมัฐฐาน หัดวิปัสสนาเป็นเวลา 3 ปี กับพระอาจารย์ท่านเจ้าคุณพิศาลคณานุกิจ เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล)\\\\\\\\\\\\\\\\nต่อมาในปี พ.ศ. 2485 ท่านอาจารย์ทองบัวมีอายุได้ 21 ปีเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ ผู้เป็นอาจารย์นำตัวไปฝากอุปสมบท ณ วัดมหาชัย อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี (พระอาจารย์มั่นเคยจำพรรษาอยู่) โดยมีพระพิศาล คณานุกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์มีท่านอาจารย์ตาลเป็นพระกรรมวาจารย์ เมื่ออุปสมบทเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองแวง อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ได้เรียนปริยัติธรรมและกรรมฐานควบคู่กันไป จนจบชั้นนักธรรมเอก\\\\\\\\\\\\\\\\nภายหลังพระอาจารย์มั่นกลับออกจากเชียงใหม่ในปี 2482 และเดินทางกลับสู่ภาคอีสาน สู่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดอุดรธานีแล้ว ในปีพ.ศ. 2485-2486 ได้พักจำพรรษาที่วัดสำนักป่าบ้านนามน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นที่สงบวิเวกดีมาก โอกาสนี้เองที่พระ อาจารย์ทองบัว ตันติกโร ได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ณ.สำนักป่าบ้านนามนนั่นเอง ได้ศึกษาฟังธรรมเทศน์ธรรมและฝึกปฏิบัติ นอกจากนี้ยังได้ฝึกบำเพ็ญกรรมฐานร่วมกับพระอาจารย์จันทร์ เขมปนัตโต(อดีตจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง) , พระอาจารย์ชอบ ฐานะสโม , และพระอาจารย์ตื้อ วจลธัมโม\\\\\\\\\\\\\\\\nนอกจากได้เรียน ปฏิบัติกรรมฐานจากพระอาจารย์มั่นแล้ว ยังมีโอกาสธุดงค์ติดตามท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ ไปจังหวัดนครพนม และได้ธุดงค์ไปดอยเก้า กุฉินนารายณ์สถานที่อันศักสิทธิ์กับท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ แม้แต่พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ศิษย์องค์แรกของพระอาจารย์มั่น ก็มีความเอ็นดูพระอาจารย์ทองบัวมาก ครั้งหนึ่งพระอาจารย์สิงห์เคยหยอกล้อ โดยใช้มือขวาของท่านลูบคางพระอาจารย์ทองบัว เมื่อในปี 2485 พระอาจารย์ทองบัวยังได้มีโอกาสศึกษากรรมฐานกับพระอาจารย์กงมา และภายหลังในปี 2493 ยังมีโอกาสศึกษากรรมฐานกับพระอาจารย์ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และพระอาจารย์สิม พุทธจาโร ผลแห่งการบำเพ็ญภาวนารักษาศีล ปฏิบัติวิปัสสนา กัมมาฐานเป็นเวลานานถึง 34 ปี(ในตอนนั้น) จึงได้มีสมาธิที่แก่กล้า อีกทั้งความมานะบากบั่นในการบำเพ็ญภาวนา ดังนั้นจึงต้องถูกนิมนต์ไปนั่งปรกบริกรรมภาวนาในพิธีพุทธาภิเษกเสมอมามิได้ขาด\\\\\\\\\\\\\\\\nกิตติศัพท์ชื่อเสียงของพระอาจารย์ทองบัว ในการอฐิธานจิตในวัตถุมงคลใดแล้วเล่าจะบังเกิดสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้ที่ศรัทธา พุทธคุณในด้าน แคล้วคลาดและเมตามหานิยมสูง\\\\\\\\\\\\\\\\nบ่อยครั้งที่มีการสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลของสายวัดป่า อาธิพระเครื่องหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ พระเครื่องหลวงปู่สิม พระเครื่องหลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ และอื่นอีกมากมาย ท่านก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะไม่ร่วมอธิฐานจิตหรือจารแผ่นยันต์ หรือเสกมวลสารเลย\\\\\\\\\\\\\\\\nหลวงปู่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโรงธรรมสามัคคีตั้งแต่ปี 2493 เป็นต้นมา ตลอดใต้ร่มกาสาวพัตร หลวงปู่ท่านได้ถือเพศบรรพชิต นับตั้งแต่นาทีแรกของการบรรพชาอุปสมบท จนถึงปัจจุบัน ปฎิบัติข้อวัตรตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ครูอาจารย์ได้ประพฤติเป็นแนวทางไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำวัตร สวดมนต์ บำเพ็ญภาวนาปฎิบัติศาสนกิจส่วนตนและส่วนรวม ท่านทำไม่เคยจน ตราบจนถึงวันที่ท่านได้ละสังขาร ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 จวบได้ 90 ปี 68 พรรษา (ตรงกับวันวิสาขบูชา) ซึ่งหาเปรียบพระเกจิอาจารย์องค์ใดรูปใดได้ เกิด วันมาฆบูชา ละสังขาร วันวิสาขบูชา\\\\\\\\\\\\\\\\nเหรียญสรรพสิทธิโชค รุ่นแรก\\\\\\\\\\\\\\\\nหลวงปู่ทองบัวนับว่าเป็นพระเถระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณสูง ทรงศีลาจารวัตรเคยปฎิบัติ บำเพ็ญสมาธิ วิปัสนากัมมัฏฐานเป็นเวลาช้านานมากว่า 70 ปี อีกทั้งมีจิตบริสุทธิ์ทรงพลังแข็งแกร่ง ดังนั้นวัตถุมงคลที่ท่านนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกอธิษฐานจิตแผ่พลังเมตตาลงไปในเหรียญนั้นจึงดีเด่น มีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตามหานิยม เหรียญนำโชคลาภมหาศาลอาจดลบันดาลให้มีโชคดีราวปาฎิหาริย์ เหรียญดังกล่าวนั่นก็คือ “เหรียญสรรพสิทธิโชค” รุ่นแรก พ.ศ.2517 ซึ่งเหรียญรุ่นนี้แกะบล็อคโดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ ซึ่งมีฝีมือแกะเหรียญได้งามเลิศเป็นอันดับหนึ่งในขณะนั้น ซึ่งจำนวนที่สร้างมีดังนี้\\\\\\\\\\\\\\\\n1 เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อทองคำหนักราว 27 กรัม จำนวน 9 เหรียญ มีเลข 1-9 กำกับ\\\\\\\\\\\\\\\\n2 เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 299 เหรียญ\\\\\\\\\\\\\\\\n3 เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อนวะ จำนวนการสร้าง 699 เหรียญ\\\\\\\\\\\\\\\\n4 เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อทองแดงกละไหล่ทอง จำนวนการสร้าง1999 เหรียญ\\\\\\\\\\\\\\\\n5 เหรียญสรรพสิทธิโชคทองแดงรมดำ จำนวนการสร้าง 9999 เหรียญ\\\\\\\\\\\\\\\\nจากจำนวนทั้งสิ้นนี้ยังมี ชุดกระเป๋าเพื่อจัดเป็นชุดหากมีผู้ที่ต้องการบูชาเป็นชุด คาดว่าไม่น่าเกิน 100 ชุด และยังมีเหรียญทองแดงผิวไฟอีกจำนวน 1500 เหรียญ และผ้ายันต์สรรพสิทธิโชคอีกราว 300 ผืน ล็อกเก็ตอีก 3 อัน\\\\\\\\\\\\\\\\nพุทธคุณเด่นของเหรียญรุ่นแรก ดีเด่นทางด้านโชคลาภ ทำให้ฐานะการเงินกระเตื้องขึ้นได้แทบไม่น่าเชื่อ เคยเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามามากราย ว่าดลบันดาลให้บังเกิดโชคดีมหาศาล ดุจดังบุญหล่นทับนั่นเทียว ผู้ใดมีเหรียญรุ่นแรกนี้ จงเก็บบูชาไว้เถิด จักบังเกิดโชคลาภให้เห็นผลประจักษ์ได้แน่นอน สมกับคำอวยพรว่า สรรพสิทธิโชค ที่หลวงปู่ท่านได้แต่งชื่อเหรียญรุ่นนี้ไว้\\\\\\\\\\\\\\\\n(ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือลานโพธิ์ ปี พ.ศ.2548)\\\\\\\\\\\\\\\\nรับประกันตามกฎ |
ชื่อร้าน |
: |
บารมีพ่อครู |
เบอร์โทรศัพท์ |
: |
0926927782 |
จำนวนคนเข้าชม |
|
2,063 คน |
------------------------------------------------------------------------------------------------
การซื้อขายรายการวัถุมงคลใดๆ ก็ตาม เป็นการตกลงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
ผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะตกลงซื้อ ทางเว็บไม่รับผิดชอบหากมีข้อพิพาท หรือปัญหา จากการซื้อขายทั้งสิ้น