จุฬามณี พิมพ์พิเศษ ลีลาหลังซุ้มอรัญญิกหรือซุ้มเสมา

จุฬามณี  พิมพ์พิเศษ ลีลาหลังซุ้มอรัญญิกหรือซุ้มเสมา

จุฬามณี  พิมพ์พิเศษ ลีลาหลังซุ้มอรัญญิกหรือซุ้มเสมา

รหัส : 2088 
ชื่อพระ : จุฬามณี พิมพ์พิเศษ ลีลาหลังซุ้มอรัญญิกหรือซุ้มเสมา
สถาณะ :
ราคา : โชว์พระ
รายละเอียด : พระกรุวัดจุฬามณี เป็นพระกรุที่มีความยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดกรุหนึ่งของเมืองไทยก็ว่าได้ เพราะมีอะไรหลาย ๆอย่าง มาประชุมประกอบกัน ดังนี้ ความยิ่งใหญ่ข้อแรก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างวัดนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๐๐๗ โดยโปรดให้แปลงเทวสถานขอมที่มีมาแต่เดิม แล้วสร้างเป็นวัดขึ้นให้ชื่อว่าวัดพระจุฬามณี ความยิ่งใหญ่ข้อที่สองเมื่อสร้างวัดแล้ว สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงผนวชที่วัดนี้ เป็นเวลา ๘ เดือน ๑๕ วัน โดยมีข้าราชบริพารออกบวชตามเสด็จ ๒๓๔๘ รูป และมีเจ้าเมืองล้านช้าง(ลาว) เจ้าเมืองเชียงใหม่ และเจ้าเมืองหงสาวดี(พม่า) แต่งเครื่องอัฐบริขารมาถวาย อันแสดงถึงพระราชอำนาจอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ความยิ่งใหญ่ข้อที่สามวัดนี้มีความสำคัญมาก ถึงขนาดสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงโปรดให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ภายหลังที่เสียหายจากศึกสงคราม ครั้งนั้น ได้โปรดให้นำรอยพระพุทธบาทมาประดิษฐาน และสร้างมณฑปครอบไว้ ตลอดจนให้ทำศิลาจารึกขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๒๓๓ หรือในอีก ๒๑๖ ปีต่อมา และเป็นเพราะศิลาจารึกนี้เอง ที่ทำให้คนรุ่นหลังได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของวัดจุฬามณี รวมทั้งการออกผนวชของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกับข้าราชบริพารของพระองค์อีกด้วย เนื่องจากวัดจุฬามณี เป็นวัดที่มีชัยภูมิอยู่ริมแม่น้ำน่าน ทำให้วัดนี้กลายเป็นที่พักทัพ ในการศึกสงคราม กับพม่า ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา จนถึงยุคต้นรัตนโกสินทร์ ยังผลให้วัดจุฬามณี ต้องเสียหายยับเยิน ในที่สุดวัดจุฬามณีจึงต้องร้างไปในที่สุด ด้วยธรรมชาติ ด้วยสิ่งแวดล้อม ด้วยสงคราม และด้วยฝีมือมนุษย์ วัดจุฬามณี ได้รับการบูรณะขึ้นมาอีกครั้ง ในปี พ.ศ.๒๔๗๓ และมีพระภิกษุสงฆ์ จำพรรษาอยู่ จวบจนปัจจุบันนี้ ( ๘๑ ปี บูรณะและพัฒนา ได้แค่นี้เอง ของ ๆตัวเองไม่สนใจพัฒนาและทำนุบำรุง แต่ยุแหย่กันให้ทำสงครามกับเพื่อนบ้าน ขึ้นศาลโลกก็จะแพ้เขาอยู่ดี แทนที่จะได้ใช้ประโยชน์จากบ่อแก๊ซที่พบระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงโดยแบ่งกันคนละครึ่ง โลภมากจะเอาหมด ลาภก็เลยจะหายกลายเป็นเตะหมูเข้าปากเขา ไปซะอย่างงั้น ท่านทหารแก่ ๆที่ทำตีสีหน้าให้ดูเหี้ยม ๆออกมาด่าหยาบ ๆคาย ๆนี้ ก็เมื่อครั้งสมัยที่มันดำรงตำแหน่งและทรงอำนาจอยู่ ก็ไม่เห็นมันออกไปรบอะไรกับใคร และก็ไม่เคยเห็นว่ามีประวัติเก่งกาจอะไรจริง ๆนอกจากออกมาเพ้อเรื่องโกหกให้ชาวบ้านเขาหลงเชื่ออยู่ข้างหน้าไมค์ พวกนี้ตอนรับราชการอยู่ขี้เกียจหลังเป็นกระดาน ครั้นพอเกษียณแล้ว กลับขยันออกมาท้าเขาเหย็ง ๆ แต่ท้าให้คนอื่นเขาไปรบให้ รู้ทุกเรื่องเว้นงานในหน้าที่ อ้าว ..ไหงเฉไฉไปเรื่องอื่น ต้องขอโทษทีนะครับ ) พระวัดจุฬามณีขึ้นจากสองสามกรุ กรุแรกเป็นกรุพระนาภีหลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นพระศิลาเก่าแก่ ขนาดหน้าตัก ๖ ศอกเศษภายในวัดได้มีพวกขี้เมา ลักลอบกระทุ้ง พระนาภี ของหลวงพ่อเพชรแตก โดยนึกว่าจะมีแก้วแหวนเงินทองซ่อนอยู่ แต่กลับปรากฏว่ามีพระพิมพ์ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์เกิดขึ้น ในช่วงที่วัดจุฬามณี ยังเป็นวัดร้างก่อน พ.ศ.๒๔๗๓ ส่วนอีกกรุ เป็น กรุน้ำ หลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบไม่นาน พระเจดีย์ของวัดองค์หนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน ได้พังลง ทำให้พระจำนวนมาก จมลงน้ำไป พระกรุน้ำนี้ สีจะซีด และมักจะสวกไม่หนึกแกร่ง อย่างพระที่ได้จากพระนาภีหลวงพ่อ ส่วนอีกกรุพบโดยพระอธิการพิพัฒน์ที่ได้เข้าไปหักร้างถางพงสร้างกุฏิสงฆ์และพระอุโบสถขึ้นใหม่ โดยการพบพระกรุนี้ได้พบที่วิหารหลวงพ่อเพชร ในโพรงพระปรางค์ และในองค์พระเจดีย์เล็กที่เรียงรายรอบพระปรางค์ ซึ่งปัจจุบันหักพังไปหมดสิ้นแล้ว พระเครื่องที่พบนี้ปะปนอยู่กับกองปรักหักพังของโบราณสถานที่ว่านี้แหละ ท่านก็เก็บขึ้นมาตากแห้งอยู่เป็นกอง ๆ ในเวลานั้นใครมาขอท่านก็ให้ไม่หวงแหน บางส่วนจึงไปพบที่กรุวัดบางระกำก็มี(นี่เป็นการย้ายกรุจริง ๆ ไม่ใช่เซียนใหญ่มาย้ายให้ ฮิฮิ) พระวัดจุฬามณีส่วนมากมักทำเป็นสองหน้า อาทิ ด้านหน้าเป็นพระพุทธเกศฤษี ด้านหลังเป็นพระนาง พระนี้ได้แยกย่อยออกเป็นหลายพิมพ์ และยังมีพิมพ์หน้าลีลา หลังซุ้มเสมา , พิมพ์หน้าซุ้มเปลวเพลิง พิมพ์หลังพระนาง , พิมพ์หน้าซุ้มชินราช พิมพ์หลังพระนางขัดเพชร , พิมพ์นางม้วนเดียว , พิมพ์นางสองหน้า , พิมพ์ซุ้มชินราชสองหน้า เป็นต้น รวมแล้วมีราวสิบกว่าพิมพ์ พระจุฬามณี มีรูปทรงเป็นเม็ดขนุน มีขนาดราวข้อนิ้วชี้ผู้ใหญ่ เป็นพระที่มีความเกรียงไกรอลังการในด้านต้นกำเนิดมาก ตลอดระยะเวลาราว ๘๐ กว่าปี นับแต่พระได้แตกออกจากกรุ จนถึงปัจจุบัน ได้ปรากฏกฤดาภินิหาร ในด้านแคล้วคลาดเนือง ๆ พระกรุวัดจุฬามณี จึงอาราธนาขึ้นคอใช้แทน พระนางพญาได้สบายมาก แต่สำหรับในวันนี้และครั้งนี้ kik-kok ขอนำเสนอ “ พระกรุวัดจุฬามณีพิมพ์พิเศษ เป็นพิมพ์ ลีลาหลังซุ้มอรัญญิก ” ซึ่งเดิมต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งเดียวในกรุ และได้ครองตำแหน่งดังว่านี้อยู่ประมาณ ๕-๖ ปี แต่บัดนี้ทราบจากพวก ๆกันว่าพบอีกองค์หนึ่งแล้ว แต่หย่อนงามกว่าองค์นี้หน่อยเดียวเท่านั้น จึงกลายมาเป็น “ หนึ่งในสององค์ของวงการ ” ส่วนองค์ที่ว่าเพิ่งจะพบ เป็นองค์ที่ ๒ ( ไม่ใช่องค์ที่ลงโชว์ของผมนะครับ ) เป็นของพวกกันคือ เป็นของเสี่ยโอ๊ก หรือคุณวรวิชญ์ สุนทรภัค อยู่ในเวปท่าพระจันทร์ ตั้งราคาไว้ ๘๐,๐๐๐.-บาท ครับ โอ๋ยโย่ ผมเลยถอยดีกว่า ม่ายอาวดีกว่า ... ทีนี้ลองมาชมองค์ของผมกันดีกว่าครับ ให้ชมฟรี ๆครับ แหะ แหะ  
ชื่อร้าน : kik-kok
เบอร์โทรศัพท์ :
จำนวนคนเข้าชม   4,299 คน 


------------------------------------------------------------------------------------------------
การซื้อขายรายการวัถุมงคลใดๆ ก็ตาม เป็นการตกลงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย 
ผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะตกลงซื้อ ทางเว็บไม่รับผิดชอบหากมีข้อพิพาท หรือปัญหา จากการซื้อขายทั้งสิ้น